Flow Chart ภาษา c

เขียนโดย Ulike

flow chart เป็นอัลกอริทึมรูปแบบสัญญาลักษณ์ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และนิยมใช้มากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ สำหรับนักออกแบบ โปรแกรมเพื่อจะสื่อสารบอกต่อให้กับโปรแกรมเมอร์ได้เขียนโปรแกรมได้ตรงตามความต้องการของผู้ออกแบบโปรแกรม โดย รูปแบบของ flow chart รูปแต่ละรูปจะมีความหมายเฉพาะตัว ใช้ลูกศรกำหนดทิศทางการทำงานในแต่ละขั้นตอน

ตารางแสดงสัญญษลักษณ์ Flow Chart

สัญญาลักษณ์รูปภาพ	ความหมาย
	จุดเริ่มต้น(start) หรือ จุดสิ้นสุด (stop)
	รับข้อมูล(input) หรือ แสดงผลข้อมูล(output)
	รับข้อมูลนำเข้าจากคีย์บอร์ด(in put from keyboard)
	การคำนวน
	การตัดสินใจ(decision)หรือ การเปรียบเทียบ(compare)
	แสดงผลออกทางเครื่องพิมพ์(printer)
	การทำงานย่อย(supprogram)
	จุดเชื่อมต่อ
	ทิศทาง(flow)

ตารางนี้เป็นการแสดง สัญญาลักษณ์ Flowchart เพียงบ้างส่วนเท่านั้น เพราะเป็นส่วนที่ใช้งานบ่อยๆมาก ซึ่งสัญญาลักษณ์รูปภาพของ flowchart ยังมีอีกมาก แต่จะยังไม่กล่าวถึงเพราะนี้ยังอยู่ในการใช้งานเบื่องต้นอยู่ และเพื่อให้ผู้อ่านบทความนี้เข้าใจในการเขียนอัลกอริทึมแบบ Flowchart มากขึ้น ผมจะขอลองสมมุติ ตัวอย่างโจทย์เพื่อแสดง เป็นตัวอย่างเพื่อใช้เป็นแนวทางต่อไปนะครับ

ตัวอย่างที่1 : จงเขียน Flowchart โปรแกรมรับค่ารัศมี 1 ค่าหลังจากนั้นให้คำนวนหาพื้นที่ส่วนที่แรงเงาดังรูป

วิเคราะห์ปัญหา :

1.ปัญหาคือ : จากรูปที่กำหนดมาให้ เราต้องรูปสูตร พ.ท. วงกลม กับ พ.ท สื่เหลียมจตุรัส สูตร พ.ท.วงกลม คือ πr^2 โดยที่ π=3.14 สูตร พ.ท. สี่เหลียม จตุรัส ด้าน คณ ด้าน จากโจทย์เข้าให้เรารับค่ารัศมี 1 ค่า เพราะฉนั้นเราจะได้ เส้นผ่าศูยน์กลางวงกลม = ความยาวของด้านสี่เหลียมจตุรัส 1 ด้าน เราจะได้ 2r เป็นด้านของสี่เหลียม และหา พ.ท. ในส่วนที่แรงเงา

2.ตัวแปรที่ใช้ : r ใช้เก็บค่ารัศมี Area_Circle เก็บค่า พ.ท วงกลม Area_Square เก็บค่า พ.ท. สี่เหลียมจตุรัส Area_Shade ใช้เก็บค่า พ.ท. ที่แรงเงา

3.ข้อมูลนำเข้า: ค่าของ radius

4.ผลลัพธ์ คือ คำนวนหาค่าของ พ.ท. ที่แรงเงา ได้จาก การเอา พ.ท. สี่เหลียมจตุรัส มาลบกับ พ.ท.วงกลม Area_Square=2r*2r Area_Circle=3.14*(r*r) Area_Shade= Area_Square - Area_Circle

ขั้นตอนการทำงาน

1.รับค่า r เข้ามาในโปรแกรม

2.คำนวนหาค่า พ.ท. สี่เหลียมจตุรัส(Area_Square)จาก สูตร Area_Square = 2r*2r

3.คำนวนหนค่า พ.ท. วงกลม(Area_Circle) จากสูตร Area_Circle = 3.14*(r*r)

4.คำนวนหาค่า พ.ท.ส่วนที่แรงเงา (Area_Shade) จากสูตร Area_Shade = Area_Square - Area_Circle

ตัวอย่างที่2 : จงเขียน Flowchart โปรแกรมเพื่อรับค่า x และ y โดยที่ผู้ใช้ป้อนค่า x และ y และให้คอมพิวเตอร์ทำการเปรียบเทียบโดย ถ้าได้ค่า x มากกว่า y ให้บอกว่าค่า x มากกว่า y แต่ถ้าค่า x น้อยกว่า y ให้บอกว่า ค่า x น้อยกว่า y

วิเคราะห์ปัญหา :

1.ปัญหาคือ : นำค่า x และ ค่า y ที่รับเข้ามาในโปรแกรมมาเปรียบเทียบกัน

2.ตัวแปรที่ใช้ : x ใช้เก็บค่า x และ y เก็บค่าของ y

3.ข้อมูลนำเข้า : ค่าของ x และ y

4.ผลลัพธ์ : ให้โปรแกรมแสดงคำว่า x more than y หรือ x less than y

ขั้นตอนการทำงาน

1.รับข้อมูล มาไว้ที่ตัวแปร x และ y

2.นำข้อมูลที่รับเข้ามาเปรียบเทียบกัน โดย สมการ x>y จริงหรือไม่ ถ้าจริง ให้แสดง x more than y แต่ถ้าไม่ ให้แสดง x more than y เราจะเขียน Flowchart ได้ดังนี้

ตัวอย่างที่ 3 : ผมขอยกเอาโจทย์ตัวอย่างข้อที่1มาดัดแปลงหน่อยนะครับ เป็น จงเขียน Flowchart โปรแกรมรับค่ารัศมี 1 ค่าหลังจากนั้นให้คำนวนหาพื้นที่ส่วนที่แรงเงาดังรูป โดยที่ให้แยกส่วนของการรับค่าขอมูล ออกจากส่วนการคำนวนหา พ.ท. ส่วนต่างๆ (แนะนำ :ให้เขียน Flowchart แยกเป็นการทำงานของโปรแกรมย่อยที่เรียกว่า Subprogram )

วิเคราะห์ปัญหา :

1.ปัญหาคือ : จากรูปที่กำหนดมาให้ เราต้องรูปสูตร พ.ท. วงกลม กับ พ.ท สื่เหลียมจตุรัส สูตร พ.ท.วงกลม คือ πr^2 โดยที่ π=3.14 สูตร พ.ท. สี่เหลียม จตุรัส ด้าน คณ ด้าน จากโจทย์เข้าให้เรารับค่ารัศมี 1 ค่า เพราะฉนั้นเราจะได้ เส้นผ่าศูยน์กลางวงกลม = ความยาวของด้านสี่เหลียมจตุรัส 1 ด้าน เราจะได้ 2r เป็นด้านของสี่เหลียม และ หา พ.ท. ส่วนที่แรงเงา แต่เราจะต้องแยกส่วนที่เป็นการคำนวนออก จากส่วนที่รับค่า

3.ข้อมูลนำเข้า: ค่าของ radius

ขั้นตอนการทำงาน

1.รับค่า r เข้ามาในโปรแกรม

2.เรียกใช้โปรแกรมย่อยขึ้นมาทำงาน

3.โปรแกรมย่อยทำการ คำนวนหาค่า พ.ท. สี่เหลียมจตุรัส(Area_Square)จาก สูตร Area_Square = 2r*2r

4.โปรแกรมย่อยทำการ คำนวนหนค่า พ.ท. วงกลม(Area_Circle) จากสูตร Area_Circle = 3.14*(r*r)

5.โปรแกรมย่อยทำการ คำนวนหาค่า พ.ท.ส่วนที่แรงเงา (Area_Shade) จากสูตร Area_Shade = Area_Square - Area_Circle

6.กลับเข้าสู้โปรแกรมหลักอีกครั้งโดยโปรแกรมหลักจะแสดงผลลัพธ์ที่โปรแกรมย่อยได้ประมวลไว้

เราจะได้ Flow chart ดังนี้

โจทย์ไปลองหัดทำนะครับไม่เข้าใจก็สอบถามโดยต้องได้ที่

facebook ulike fanpage

1.จงเขียน Flow chart แสดงขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมตัดเกรด โดยเมื่อป้อนคะแนนสอบแล้ว โปรแกรมจะสามารถบอกได้ว่าได้เกรดอะไร โดยมีเกณฑ์ในการตัดเกรดดั้งนี้

คะแนน	ได้	เกรด
90-100		A
80-89		B
70-79		C
60-69		D
ต่ำกว่า60		F

2.จงเขียน Flow chart แสดงการหาผลบวกเลข คี่ที่มีค่าอยู่ในช่วง 1 ถึง 100 แค่สองตัวอย่างนะครับ หวังว่าทุกคนที่อ่านบทความนี้จะลองทำดู เพื่อจะได้เข้าใจยิ่งขึ้น

5 ความคิดเห็น:

Unknown23 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 21:32
#include
void swap (char *a,char*b)
{
char num;
num= *a;
*a = *b;
*b = num;
}
void permute(char *x,int i,int n)
{
int j;
if(i==n)
printf("%s\n",x);
else
{
for (j = i; j <= n; j++)
{
swap((x+i), (x+j));
permute(x, i+1, n);
swap((x+i), (x+j));

}
}
}
int main()
{
char a[3];
printf("Enter input:");
gets(a);
printf("Permutation\n");
permute(a, 0, 2);
getchar();
return 0;
}
ช่วยเขียนโฟลชร์าตไห้หน่อยคาบ
ตอบลบ
คำตอบ
P. Sarakon20 พฤษภาคม 2557 เวลา 21:25
ขอบคุณครับ
ตอบลบ
คำตอบ
Patchareeya Boonyatipong29 กรกฎาคม 2564 เวลา 12:00
#include
int main()
{
int a,b,c;
a=11;
b=22;
c=33;
printf("a = %d\tb = %d\tc=%d\n",a,b,c);
if (c<b)
{
printf("c < b is True.\n");
}
else if (b<a){printf("b < c is True.\n");
}
else
{
printf("c < b and b < a are False.\n");
}
getchar();
return 1;
}

ช่วยเขียนflowchartให้หน่อยค่ะ
ตอบลบ
คำตอบ
ไม่ระบุชื่อ30 สิงหาคม 2567 เวลา 22:33
Sub BowlingScore_4()
Dim frame As Integer
Dim roll1 As Variant, roll2 As Variant, roll3 As Variant
Dim score(1 To 10) As Integer
Dim totalScore As Integer
Dim ws As Worksheet

Set ws = Worksheets.Add
ws.Name = "Bowling Score_4"

ws.Cells(1, 1).Value = "Frame"
ws.Cells(1, 2).Value = "Roll 1"
ws.Cells(1, 3).Value = "Roll 2"
ws.Cells(1, 4).Value = "Roll 3 (Frame 10 only)"
ws.Cells(1, 5).Value = "Frame Score"
ws.Cells(1, 6).Value = "Total Score"

For frame = 1 To 10
roll1 = Application.InputBox("Enter score for Roll 1 in Frame " & frame & " (X for Strike)", Type:=2)

If roll1 = "X" Or roll1 = "x" Then
roll1 = 10
roll2 = 0
If frame = 10 Then
roll2 = Application.InputBox("Enter score for Roll 2 in Frame " & frame, Type:=2)
If roll2 = "X" Or roll2 = "x" Then roll2 = 10
roll3 = Application.InputBox("Enter score for Roll 3 in Frame 10", Type:=2)
If roll3 = "X" Or roll3 = "x" Then roll3 = 10
Else
roll3 = 0
End If
Else
roll1 = CInt(roll1)
roll2 = Application.InputBox("Enter score for Roll 2 in Frame " & frame & " (/ for Spare)", Type:=2)

If roll2 = "/" Then
roll2 = 10 - roll1
ElseIf roll2 = "X" Or roll2 = "x" Then
roll2 = 10
Else
roll2 = CInt(roll2)
End If

If frame = 10 And (roll1 + roll2 >= 10) Then
roll3 = Application.InputBox("Enter score for Roll 3 in Frame 10", Type:=2)
If roll3 = "X" Or roll3 = "x" Then
roll3 = 10
Else
roll3 = CInt(roll3)
End If
Else
roll3 = 0
End If
End If

If frame < 10 Then
If roll1 = 10 Then
nextRoll1 = Application.InputBox("Enter score for Roll 1 in Frame " & (frame + 1), Type:=2)
If nextRoll1 = "X" Or nextRoll1 = "x" Then nextRoll1 = 10
nextRoll2 = Application.InputBox("Enter score for Roll 2 in Frame " & (frame + 1), Type:=2)
If nextRoll2 = "X" Or nextRoll2 = "x" Then nextRoll2 = 10
If nextRoll2 = "/" Then nextRoll2 = 10 - nextRoll1
score(frame) = 10 + CInt(nextRoll1) + CInt(nextRoll2)
ElseIf roll1 + roll2 = 10 Then
nextRoll1 = Application.InputBox("Enter score for Roll 1 in Frame " & (frame + 1), Type:=2)
If nextRoll1 = "X" Or nextRoll1 = "x" Then nextRoll1 = 10
score(frame) = 10 + CInt(nextRoll1)
Else
score(frame) = roll1 + roll2
End If
Else
score(frame) = roll1 + roll2 + roll3
End If

totalScore = totalScore + score(frame)

ws.Cells(frame + 1, 1).Value = frame
ws.Cells(frame + 1, 2).Value = IIf(roll1 = 10, "X", roll1)
ws.Cells(frame + 1, 3).Value = IIf(roll1 <> 10 And roll1 + roll2 = 10, "/", roll2)
ws.Cells(frame + 1, 4).Value = IIf(frame = 10 And roll3 = 10, "X", roll3)
ws.Cells(frame + 1, 5).Value = score(frame)
ws.Cells(frame + 1, 6).Value = totalScore
Next frame
End Sub

เขียนเป็นโฟล์วชาร์ตยังไงหรอคะ
ตอบลบ
คำตอบ

เพิ่มความคิดเห็น